ดูบอลยูโร 2024 กลุ่มเอ มีประเทศอะไรบ้าง และ 5 เหตุผลที่ควรดูบอลยูโร

ดูบอลยูโร 2024 หากพูถึงศึกฟุตบอลชิงแชมป์ประจำแห่งชาติยุโรป หรือก็คือ ยูโร 2024 ที่กำลังจะถึงเวลารูดม่านเปิดฉาก วันนี้เราจะพาไปรู้จักกลุ่มแรกกันก่อนนั้นก็คือ กลุ่มเอ มีทีมใด และโอกาสเข้ารอบเป็นของชาติใดกันบ้าง โดยเริ่มที่กลุ่ม เอ ฟุตบอลยูโร 2024 รอบสุดท้าย จะแข่งระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน -14 กรกฎาคม 2567 มีทั้งหมด 24 ทีม 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ในกลุ่มเอ เป็นทางเจ้าภาพเยอรมนี ต้องถือว่าได้เปรียบในการแข่งขันต่อหน้าแฟนบอล ในขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกทีมที่น่าจับตามองมากที่ลุ้นเข้ารอบ ที่โดยมี ฮังการี และ สกอตแลนด์ เป็นตัวสอดแทรกที่มาแรงไม่แพ้กัน เราไปดูกันว่าแต่ละทีมไหนที่น่าสนใจบ้าง และเหตุผลที่ควร ดูฟุตบอลยูโร 2024

ดูบอลยูโร 2024 เริ่มด้วยทีมแรก เยอรมนี

“อินทรีเหล็ก”  ที่มี ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ อดีตกุนซือ แอร์เบ ไลป์ซิก และ บาเยิร์น มิวนิค คุมทีม มั่นใจในทีมของตัวเองในการที่จะนำแชมป์มาให้แฟนๆ ตัวเองได้ฉลอง โดยมีแข้งคนสําคัญที่กลับมาลุยแข่งอย่าง โทนี่ โครส ที่เพิ่งคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 5 กับ  เรอัล มาดริด และเตรียม ประกาศแขวนสตั๊ดหลังจบทัวร์นาเมนต์นี้ ซึ่งก็ต้องลุ้นว่าแข้งวัย 34 ปี ที่มีส่วนช่วยพาทีมเป็นแชมป์โลกเมื่อปี 2024 มาแล้ว จะช่วยพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปได้หรือไม่ เช่นเดียวกับ  โธมัส มุลเลอร์ อีกหนึ่งแข้งมากประสบการณ์ที่เคยอยู่ในชุดแชมป์โลก 2024 ก็พร้อมช่วยทีมเช่นกัน ขณะที่แข้งดาวรุ่งนักเตะยอดเยี่ยมบุนเดสลีกา อย่าง ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ที่พาเลเวอร์คูเซ่น เป็นดับเบิ้ลแชมป์ฤดูกาลนี้ อีกทั้งเพิ่งทําประตูให้กับทัพ อินทรีเหล็ก หลังเริ่มเกมเพียง 7 วินาที ในนัดอุ่นเครื่องที่ชนะฝรั่งเศส 2-0 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็เป็นอีกรายที่น่าจับตามอง

ดูบอลยูโร 2024 หลังจากทีมชาติสกอตแลนด์ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 อย่างหน้าเสียดาย ทีมของ  สตีฟ คล้าร์ก  นั้นมองถึงการหวนคืนสู่เส้นทางแห่งชัยชนะ โดยสกอตแลนด์ทําสถิติอย่างน่าเหลือเชื่อในรอบคัดเลือก ยูโร ด้วยการชนะ 3 นัดติดต่อกัน ซึ่งที่ผ่านมา สกอตแลนด์ ยังไม่เคยไปถึงสุดยอดการเป็นแชมป์ ยุโรป เลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยทีมสกอตแลนด์ ชุดนี้มีผู้เล่นที่เล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก มากมาย โดยเฉพาะ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ของลิเวอร์พูล กับ จอห์น แม็คกินน์ ของแอสตัน วิลล่า ที่ทำผลงานได้ดีกับต้นสังกัด

ทีมชาติฮังการีผ่านเข้ามาเล่นในศึกฟุตบอลยูโรเป็นครั้งที่ 3 สมัยติด โดยในรอบคัดเลือก ฮังการี โชว์ฟอร์มเยี่ยม  8 นัดไร้พ่าย (ชนะ 5 เสมอ 3) ซึ่งนับเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อของลูกทีม  มาร์โก รอสซี กุนซือชาวอิตาเลี่ยน โดยขุนพล “แมกยาร์”  มีผู้เล่นคนสำคัญอย่าง โดมินิก โซบอสซ์ไล กองกลางจากลิเวอร์พูล ที่จะคอยปั้นเกม ส่วนนักเตะที่น่าจับตามอง คือ  มิลอส เคอร์เคซ แบ๊กซ้ายวัย 20 ปี ที่เพิ่งย้ายมาอยู่กับบอร์นมัธ และก็ถือว่าทำผลงานได้ไม่เลง

สวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งทีมผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม สมอต้นเสมอปลาย โดยเฉพาะเกมรับที่มีดาวเตะมากประสบการณ์อย่าง กรานิต ชาก้า แข้งเลเวอร์คูเซ่นทีมดับเบิ้ลแชมป์ฤดูกาลล่าสุด รวมถึง เกมรุกที่มี เซอร์ดาน ชากิรี ที่เวลานี้ค้าแข้งอยู่กับ ชิคาโก ไฟร์ ด้าน รูเบน วาร์กัส ตัวรุกริมเส้นวัย 25 ปี จาก เอาก์สบวร์ก ที่ฤดูกาลที่ผ่านมาลงเล่นในบุนเดสลีกา ไป 31 นัด ทำ 4 ประตู 4 แอสซิสต์  คืออีกหนึ่งผู้เล่นที่ต้องจับตา

1. ศึกใหญ่ 4 ปีมีหน : ศึกฟุตบอลยูโร เป็นทัวร์นาเม้นต์ระดับนานาชาติที่ไม่ได้จัดกันบ่อยๆ โดยจะจัดแข่งขันทุกๆ 4 ปีราวกับเลือกตั้งรัฐบาลใหม่  ไม่เหมือนกับฟุตบอลถ้วยระดับสโมสรรายการอื่นๆ ที่จัดแข่งขันทุกปี
2. เร้าใจช่วงปิดลีก : โดยปกติแล้ว หลังจากฟุตบอลลีกต่างๆ รูดม่านปิดฉากจบฤดูกาลลงไป แฟนบอลมักจะออกอาการเซ็งๆ ซึมเศร้าเหงาหงอย กินข้าวไม่อร่อย รู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง เพราะไม่มีเกมลูกหนังให้ติดตามเชียร์ในช่วงปิดฤดูกาล แต่สำหรับปีนี้ บรรดาคอบอลจะได้คึกคักกันอย่างต่อเนื่อง
3. ตามเชียร์แข้งคนโปรด : แฟนบอลหลายคนอาจจะไม่มีทีมเชียร์แบบจริงๆ จังๆ ในศึกยูโร เพราะทีมชาติไทยไม่ได้ไปแข่งด้วย แถมตัวเองก็ไม่ได้มีความผูกพันอะไรกับชาติในยุโรป ไม่ได้มีพ่อเป็นคนอังกฤษ ไม่ได้มีแม่เป็นชาวเยอรมัน ไม่ได้มีภรรยาเป็นสาวฝรั่งเศส หรือไม่เคยไปเรียนไฮสคูลที่อิตาลี สักหน่อย
4. เวลาคิกออฟที่คุ้นเคย : ศึกฟุตบอลยูโร 2024 จะลงสนามคิกออฟในช่วงเวลาที่แฟนบอลไทยคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วเหมือนกับตอนกับเวลาลุ้นเชียร์บอลสโมสร เรียกได้ว่าไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก โดยศึกยูโรครั้งนี้จะมีลงสนามฟาดแข้งกัน 3 ช่วงเวลา ได้แก่ 20.00 น. , 23.00 น. และ 02.00 น. สำหรับคู่ 2 ทุ่ม และ 5 ทุ่ม ถือว่าเวลากำลังดี เหมาะกับการนั่งเอนหลังดูบอลอยู่บ้านเป็นที่สุด
5. รับกระแสยูโรฟีเวอร์ : ในช่วงระยะเวลา 1 เดือนของทัวร์นาเม้นต์ รับรองได้เลยว่า “ฟุตบอลยูโร” จะเป็นประเด็นที่ทุกคนพูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมือง หันไปทางไหนก็เจอแต่ยูโรๆๆ เปิดทีวีก็เจอ โลกโซเชียลก็ยิ่งเจอ เพื่อนที่ทำงานก็คุยยูโร คุณน้าข้างบ้านก็ยังพูดถึง หรือพี่วินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอย ก็ไม่พลาดที่จะสนทนากันเรื่องบอลยูโร

เยอรมนี  มีโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย  ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ขณะที่ 47%  ฮังการี มีโอกาสจบอันดับ 2 ส่วน สวิตเซอร์แลนด์ และ สกอตแลนด์ เป็น 2 ทีมที่ถูกมองว่า  โอกาสจะแย่งจบอันดับ 3 เพื่อลุ้นเป็น 4 ทีมที่ดีที่สุดจาก 6 กลุ่มเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย